Coming Soon!

การเกษตรยุคใหม่ กับการปรับใช้ให้เข้ากับยุค 5G

Share This Post

Share on facebook
Share on linkedin
Share on twitter
Share on email

การเกษตรยุคใหม่ ได้ถูกพัฒนาและปรับเปลี่ยนกันอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในยุคนี้มักจะมีการดึงเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยให้การเกษตรง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้น

การเกษตรสมัยใหม่ หรือที่เรียกกันว่า “เกษตร 5G” เป็นการยกระดับอุตสาหกรรมการเกษตรเพื่อให้วิถีชีวิตของเกษตรกรง่ายยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่วิธีการเพาะปลูกที่ง่ายเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้การขาย การดำเนินธุรกิจและส่งออกผลผลิตเหล่านั้นให้ถึงมือผู้บริโภคได้ง่ายและรวดเร็ว

การเกษตรยุคใหม่

นวัตกรรมเกษตรยุคใหม่ที่ตอบโจทย์การทำเกษตรแบบ Smart Farming
การหยิบยกเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีอยู่ในมือ เข้ามาช่วยให้การทำการเกษตรเป็นสิ่งที่ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเกษตรกรจะสามารถความคุมอุณหภูมิ แสง ความชื้นต่าง ๆ ที่เป็นปัจจัยในการเพาะปลูก ซึ่งหากมองย้อนกลับไปในอดีต ที่มีการเพาะปลูกกลางแจ้งโดยเราไม่สามารถที่จะควบคุมปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ได้เลย
แต่ในปัจจุบันกลับมีการคิดค้นเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือ

ควบคุมผ่านแอพฯ

เป็นการควบคุมค่าของอุณหภูมิ แสง และความชื้น ผ่านการใช้แอพพลิเคชันซึ่งจะสามารถจัดการกับปริมาณและคุณภาพของผลผลิตที่กำหนดไว้ได้ ทั้งยังบ่งบอกข้อมูลและข้อแนะนำสำหรับผู้ใช้งานมือใหม่ ว่าสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ และพืชแต่ละชนิดควรควบคุมค่าปริมาณปัจจัยต่าง ๆ ที่เท่าไหร่ ซึ่งจะสามารถควบคุมผ่านแอพได้ในในระยะไกล

ลดต้นทุนด้วยเครื่องมือ

การเพาะปลูกในแต่ละครั้ง จำเป็นที่จะต้องใช้แรงงานคนเป็นจำนวนมาก แต่ในยุคปัจจุบันเราสามารถทำการเพาะปลูกด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยส่งเสริมการปลูกเหล่านี้ได้ เช่นการใช้เครื่องจักรสั่งการระยะไกล หรือการใช้ระบบหมุนเวียนพลังงานในโรงเพาะปลูก ก็จะสามารถช่วยลดต้นทุนการจ้างแรงงานลงไปได้

การเกษตรยุคใหม่

โรงงานผลิตพืช

หรือโรงงานปลูกพืช (Plant Factory) ที่เป็นการต่อยอดแนวคิดของการทำการเกษตรแนวดิ่ง (Vertical Farming) และการเกษตรแบบโรงเรือน (Green House) โดยนำเทคนิคการทำการเกษตรแบบไร้ดิน (Soilless Culture) มาประยุกต์ใช้ ก่อให้เกิดเป็นโรงงานเพาะปลูกที่ไม่ต้องมีพื้นที่มากมาย หมดความกังวลเรื่องของประเภทดินที่ใช้สำหรับเพาะปลูกพืชแต่ละชนิด สภาพอากาศที่ไม่อาจจะควบคุมได้ โดยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยควบคุมอุณหภูมิ แสง และความชื้นให้มีสภาพคงที่และจัดการง่ายภายในพื้นที่โรงงานเดียว

ซึ่งจะสอดคล้องกับ “โครงการ Plant Factory” สามารถควบคุมความปลอดภัยและเพิ่มผลผลิตได้มากกว่าการปลูกพืชแบบปกติถึง 2-3 เท่า ต้นทุนไม่สูงแต่กำไรกลับมหาศาล ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาปัจจัยธรรมชาติที่ควบคุมไม่ได้ ลดการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติ ทำให้มีศักยภาพในการสร้างความมั่นคง ความยั่งยืน และความปลอดภัย

อีกหนึ่งนวัตกรรมการเพาะปลูกรูปแบบใหม่ของประเทศไทย เพื่อการก้าวเข้าสู่การเกษตรอัจฉริยะซึ่งไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวสำหรับเกษตรกร แต่เป็นทางเลือกการทำเกษตรในรูปแบบใหม่ ที่เราสามารถควบคุมการเพาะปลูกและผลผลิตได้อย่างมีคุณภาพ

อ่านบทความเกี่ยวกับ Plant Factory เพิ่มเติมที่:
เทรนด์การเกษตรดิจิทัล 2022 
องค์ประกอบห้องเพาะปลูกแบบ Plant Factory


ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Plant Factory ได้ที่:
Facebook: https://www.facebook.com/thaiplantwiki

More To Explore

Do You Want To Boost Your Business?

drop us a line and keep in touch