โรงงานปลูกพืช (Plant Factory) ที่เป็นการต่อยอดแนวคิดของการทำการเกษตรแนวดิ่ง (Vertical Farming) และการเกษตรแบบโรงเรือน (Green House) โดยนำเทคนิคการทำการเกษตรแบบไร้ดิน (Soilless Culture) มาประยุกต์ใช้
ซึ่งการเพาะปลูกลักษณะนี้จะทำให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกพืชพันธุ์ได้ในจำนวนที่มากยิ่งขึ้น ทั้งยังไม่จำเป็นต้องคอยรดน้ำให้สารอาหารทุกวัน แต่เราสามารถทำได้ด้วยการใส่สารอาหารเข้าไปกับระบบหมุนเวียนน้ำ เพื่อให้พืชสามารถดูดซับสารอาหารได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ยังไม่ต้องกังวลเรื่องของสภาพอากาศ แสงแดดที่มีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ แต่เราสามารถควบคุมได้ด้วยระบบไฟและอุณหภูมิความชื้นที่เราสามารถกำหนดค่าได้เอง เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของพืชแต่ละชนิด
โดยปกติแล้วการเพาะปลูกรูปแบบโรงงานพืชมักจะมีอุปกรณ์และองค์ประกอบพื้นฐานทั้งหมด 8 องค์ประกอบที่ใช้ในการควบคุมสภาวะแวดล้อมของพืช ได้แก่
- ส่วนฉนวนกันความร้อน เป็นส่วนที่สร้างเพื่อกับความร้อนจากอุณหภูมิภายนอก เพื่อการควบคุมอุณหภูมิภายในให้คงที่ตลอดเวลา
- ชั้นปลูกที่มีหลายระดับ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเพาะปลูก และเพิ่มปริมาณของพืชผลได้
- ถ้วยเพาะ
- ระบบการให้แสงในโรงเรือน
- ส่วนหมุนเวียนนำพาสารอาหาร โดยที่เราไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยรดน้ำในทุกวัน
- ระบบปรับอากาศที่ควบคุมอุณหภูมิ
- ระบบจ่ายคาร์บอนไดออกไซด์
- ระบบควบคุมและเก็บข้อมูล
ซึ่งแต่ละโรงงานสามารถปรับเปลี่ยนและเพิ่มเติมอุปกรณ์ที่ใช้ในการเพาะปลูกในรูปแบบที่แตกต่างกันไป แต่ 8 องค์ประกอบข้างต้น คือพื้นฐานของการเพาะปลูกรูปแบบโรงงานพืชที่ทั่วโลกต่างใช้กัน
โดยจะเป็นการปลูกพืชแบบไฮโดรโพนิก (Hydroponic) ที่จะใช้น้ำที่มีสารอาหารจำเป็นสำหรบพืช ส่งหมุนเวียนให้กับรากของพืชที่อยู่ในรางปลูกแบบ 24 ชม. ทำให้เกิดการเร่งกระบวนการรับสารอาหารและการเจริญเติบโตของพืช ส่งผลให้สามารถสร้างผลผลิตได้รวดเร็วและดีกว่าการปลูกรูปแบบอื่น
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Plant Factory ได้ที่:
Facebook: https://www.facebook.com/thaiplantwiki