เมื่อพูดถึงอาหารสุขภาพ สิ่งแรกที่หลาย ๆ คนนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ คงหนีไม่พ้นเมนู “สลัด” กันใช่ไหมล่ะ เพราะสามารถหาซื้อได้ง่าย หรือจะทำเองก็หาวัตถุดิบได้ไม่ยาก แถมยังสามารถเลือกใช้วัตถุดิบได้หลากหลายตามความชอบของแต่ละคน สลัด จึงได้กลายเป็นเมนูที่คนรักสุขภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักเลือกกิน
แต่สำหรับบางคนแม้จะกินสลัดแทบทุกมื้อน้ำหนักก็ยังไม่ลด นั่นก็อาจเป็นเพราะได้มองข้ามสิ่งสำคัญอย่างส่วนประกอบในสลัดไป แอดมินจึงขอแนะนำสำหรับผู้ที่อยากกินสลัดให้ได้ประโยชน์ และดีต่อสุขภาพจริง ๆ ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้
สิ่งที่ควรเลี่ยงหากอยากกิน สลัด ให้ได้ผลดีต่อสุขภาพ
1.กินโปรตีนมาหรือน้อยเกินไป
โปรตีนเป็นสารอาหารที่เราไม่ควรมองข้ามเมื่อกินสลัด เพราะโปรตีนนอกจากจะช่วยให้อิ่มท้องนานขึ้นแล้ว ยังมีประโยชน์ในอีกหลายเรื่อง เช่น ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ กระตุ้นการเผาผลาญ บำรุงผิวและผม แต่ถ้าหากกินโปรตีนมากหรือน้อยเกินไปก็อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ คือ ถ้ากินน้อยไปอาจทำให้ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ปวดข้อ มีภาวะความดันต่ำ ส่วนถ้ากินมากเกินไปอาจทำให้มีภาวะขาดน้ำ คลื่นไส้ ปวดหัว ท้องเสีย รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
2.กินผักไม่หลากหลาย
ผักสลัดยอดนิยมที่คนชอบกินกันก็ไม่พ้นผักกาดแก้ว ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก แต่มีสารอาหารอื่นน้อยมากเมื่อเทียบกับผักใบเขียวเข้ามอื่น เช่น ปวยเล้ง เคล หรือผักกาดชนิดอื่น ๆ อย่าง ผักกาดโรเมน ผักกาดหอม ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด ที่อุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินเค ผักสลัดยอดนิยมที่คนชอบกินกันก็ไม่พ้นผักกาดแก้ว ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก แต่มีสารอาหารอื่นน้อยมากเมื่อเทียบกับผักใบเขียวชนิดอื่น เช่น ปวยเล้ง เคล หรือผักกาดชนิดอื่น ๆ อย่าง ผักกาดโรเมน ผักกาดหอม ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด ที่อุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินเค และไฟโตนิวเทรียนท์ การกินสลัดที่ดีจึงควรใส่ผักให้หลากหลายชนิด เพราะการกินผักเพียงชนิดเดียว หรือสีเดียว เพราะอาจทำให้เราได้สารอาหารไม่ครบถ้วน หรือได้รับสารอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป นอกจากนั้นยังมีผลการศึกษาที่ระบุว่าผู้ที่กินผักหลากหลายกว่าจะมีความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งปอดน้อยกว่าอีกด้วย
3.ใส่ขนมปังกรอบจนพูนจาน
สำหรับการกินสลัดอีกส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้บนจานสลัดของหลายคนนั่นก็คือการใส่ขนมปังกรอบ ของอร่อยที่ทำลายสุขภาพ เพราะขนมปังกรอบเต็มไปด้วยไขมัน คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี แถมยังมีแคลอรีสูง ซึ่งขนมปังกรอบ 5 ชิ้น ให้พลังงานประมาณ 30 กิโลแคลอรี และถ้าเป็นขนมปังกรอบเคลือบชีส หรือเนย ก็อาจให้พลังงานมากกว่านี้ถึง 2 เท่าได้ หากอยากได้ความกรุบกรอบ ควรเปลี่ยนมาเป็นการใส่ถั่วหรือธัญพืชแทน เช่น วอลนัต ถั่วเหลืองคั่วกรอบ เพราะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีต่อหัวใจและระบบประสาท รวมถึงไฟเบอร์ที่ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารด้วย
4.เติมชีสในสลัดมากไป
ชีสอุดมไปด้วยแคลเซียมและโปรตีน แต่ก็มีโซเดียม ไขมันอิ่มตัว และแคลอรีสูง การกินแต่ละครั้งจึงไม่ควรเกิน 1-1.5 ออนซ์ (ประมาณ 28-43 กรัม) และควรเลือกเป็นชีสแบบแข็ง เช่น พาร์เมซานชีส ชีสไขมันต่ำ หรือชีสมังสวิรัติที่ทำด้วยข้าว หรือถั่วเหลืองแทนก็ได้
5.เลือกน้ำสลัดผิดประเภท หรือราดน้ำสลัดจนชุ่ม
น้ำสลัดส่วนใหญ่ที่ขาดอยู่ตามท้องตลาดมักมีไขมันและแคลอรีสูง ซึ่งน้ำสลัดแบบครีมเพียง 2 ช้อนโต๊ะให้พลังงานถึง 100-200 กิโลแคลอรี ถ้าหากใครราดน้ำสลัดจนชุ่มก็ยิ่งทำให้ปริมาณสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น เวลาที่กินสลัดเราควรเลือกน้ำสลัดสูตรไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย โดยสามารถเพิ่มรสชาติด้วยการเหยาะน้ำส้มสายชูจากน้ำองุ่น หรือบีบน้ำมะนาวแทน และสำหรับใครที่กินสลัดที่ร้านก็อย่าลืมบอกให้พนักงานแยกน้ำสลัดมาต่างหาก
6.ชอบโรยลูกเกด หรือผลไม้อบแห้ง
ผลไม้อบแห้ง เช่น ลูกเกด แคนเบอรี่อบแห้งขึ้นชื่อว่าเป็น “ลูกกวาดธรรมชาติ” เพราะถึงแม้จะไม่มีไขมัน แต่ก็เต็มไปด้วยน้ำตาล ลูกเกดประมาณ 140 กรัม ให้พลังงานถึง 130 กิโลแคลอรี่ และมีน้ำตาลถึง 29 กรัมเลยทีเดียว หากถ้าอยากเพิ่มรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ จากผลไม้อาจเลือกเป็นการใส่ผลไม้สดอย่างสตอว์เบอรี่ บลูเบอรี่ หรือแอปเปิ้ล แทนก็ได้
ซึ่งทั้ง 6 ข้อที่แอดมินนำมาฝากทุกคนนั้น ก็เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้การกินสลัดของแต่ละคนนั้นไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักลงได้ หากอยากลดน้ำหนักลองปรับประมาณกันดูนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ผักทานง่าย แคลน้อย และลดน้ำหนักได้ด้วย
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Plant Factory ได้ที่:
Facebook: https://www.facebook.com/thaiplantwiki
